ในการเลือกซื้อคาร์ซีท (Car Seat)  หรือ เบาะที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กภายในรถยนต์มาให้กับลูกน้อยของตัวเองได้ใช้งาน คุณพ่อ คุณแม่ และผู้ปกครองทุกท่านล้วนมีสิ่งที่จำเป็นจะต้องทำการเลือกพิจารณามากมาย ไม่ว่าจะเป็นความสบายตัวของลูกน้อยในขณะที่กำลังนั่งอยู่บนเบาะที่นั่งคาร์ซีท ความสะดวกสบายในการติดตั้งคาร์ซีทเพื่อการใช้งาน ตลอดจนเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ถูกนำมาติดตั้งเอาไว้ในคาร์ซีทซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความสามารถของคาร์ซีทในการช่วยป้องกันและลดความรุนแรงในการบาดเจ็บให้กับลูกน้อยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ไม่คาดฝัน

ซึ่งแน่นอนว่าท่ามกลาง Car Seat ที่มีวางจำหน่ายอยู่มากมายในท้องตลาด เราล้วนไม่มีวันรู้ได้เลยว่าคาร์ซีทแต่ละตัวนั้นจะสามารถช่วยป้องกันอันตรายให้กับลูกน้อยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตามที่ได้มีการโฆษณาเอาไว้มากน้อยแค่ไหน เพราะฉะนั้นแล้วการเลือกใช้งานคาร์ซีท (Car Seat) ที่ผ่านการทดสอบและการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากล จึงถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ทุกคนสามารถมั่นใจได้ว่าคาร์ซีทที่ตนเองได้ทำการเลือกซื้อมานั้นมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยต่อลูกน้อยอย่างแท้จริง โดยในวันนี้ Britax Thailand จะขอพาคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ทุกคนไปทำความรู้จักกับมาตรฐานคาร์ซีทจากอเมริกา ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับคาร์ซีทที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

มาตรฐาน FMVSS 213 มาตรฐานคาร์ซีทอเมริกาที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

มาตรฐาน FMVSS 213 (Federal Motor Vehicle Safety Standards for Child Restraint Systems) เป็นหนึ่งในมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้งานคาร์ซีท (Car Seat) ที่ถูกกำหนดขึ้นมาโดยหน่วยงาน The National Highway Traffic Safety Administration ของสหรัฐอเมริกา เพื่อวัตถุประสงค์สำคัญในการช่วยให้การใช้งานคาร์ซีทเด็ก (Car Seat) สามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัย รวมถึงสามารถช่วยป้องกันและลดความรุนแรงในการบาดเจ็บของเด็ก ๆ ในระหว่างที่มีการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ไม่คาดฝันจากการชน กระแทก หรือพลิกคว่ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อกำหนดสำหรับคาร์ซีทที่ผ่านการรับรองด้วยมาตรฐาน FMVSS 213

1. การทดสอบความปลอดภัยของคาร์ซีทตามมาตรฐาน FMVSS 213
   สำหรับคาร์ซีทเด็ก (Car Seat) ทุกตัวที่จะได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้คาร์ซีท FMVSS 213 จากสหรัฐอเมริกา จำเป็นที่จะต้องผ่านการทดสอบเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้งานคาร์ซีท ดังนี้
   
   • การจำลองการเกิดอุบัติเหตุโดยการชนจากด้านหน้าด้วยความเร็ว 50 กม./ชม.
   • การจำลองการเกิดอุบัติเหตุโดยการชนแบบพลิกคว่ำหลายตลบ
   • การใช้หุ่นเด็กจำลองการชนที่มีเซนเซอร์วัดการบาดเจ็บรอบตัวร่วมกับการทดสอบ โดยที่ในระหว่างการทดสอบการชนนั้นจะต้องไม่ปรากฏการบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะ หน้าอก และเข่าของหุ่นเด็กจำลอง
   • การทดสอบประสิทธิภาพของคาร์ซีท (Car Seat)  โดยคาร์ซีทที่เข้ารับการทดสอบจะต้องไม่เกิดการแตกหักเสียหาย รวมถึงวัสดุอื่น ๆ อย่างเช่น เบาะที่นั่งคาร์ซีท หรือสายรัดนิรภัย จะต้องไม่เกิดการฉีกขาดทั้งในระหว่างการทดสอบและหลังการทดสอบ
   • การทดสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการติดตั้งคาร์ซีทร่วมกับระบบ LATCH ในคาร์ซีทสำหรับเด็กเล็ก และระบบเข็มขัดนิรภัยในคาร์ซีทสำหรับเด็กโต หรือ บูสเตอร์ซีท (Booster Seat)ด้วยการจำลองการเกิดอุบัติเหตุโดยการชนจากด้านหน้า
   • การทดสอบเกี่ยวกับแรงที่ใช้ในการแกะสายรัดนิรภัย โดยตัวล็อกสายรัดนิรภัยจะต้องมีความแข็งแรงที่มากเพียงพอที่เด็ก ๆ จะไม่สามารถทำการแกะสายรัดออกเองได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่รัดแน่นจนเกินไปเพื่อให้ผู้ใหญ่สามารถแกะออกได้อย่างง่ายดาย
   
   
2. รูปแบบของคาร์ซีท
   โดยทั่วไปแล้วรูปแบบของคาร์ซีท (Car Seat)  ที่ถูกผลิตขึ้นมาในสหรัฐอเมริกาและผ่านการรับรองความปลอดภัยด้วยมาตรฐาน FMVSS 213 จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 รูปแบบหลัก ๆ ได้แก่ คาร์ซีทแบบกระเช้า คาร์ซีทเด็กเล็ก และคาร์ซีทสำหรับเด็กโต หรือ บูสเตอร์ซีท (Booster Seat) โดยที่คาร์ซีทแต่ละประเภทนั้นจะสามารถรองรับการใช้งานตามช่วงอายุ น้ำหนักตัว และส่วนสูงของเด็ก ๆ ที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
   
   • คาร์ซีทกระเช้าสำหรับเด็กแรกเกิด (Baby Car Seat) สำหรับทารกแรกเกิดไปจนถึงอายุ 15 เดือน หรือทารกที่มีน้ำหนักตัวไม่เกิน 16 กิโลกรัม และมีส่วนสูงไม่เกิน 81 เซนติเมตร
   
   • คาร์ซีทเด็กเล็ก (Toddler Car Seat) สำหรับเด็กเล็กที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี หรือเด็กเล็กที่มีน้ำหนักตัวไม่เกิน 29 กิโลกรัม และมีส่วนสูงไม่เกิน 125 เซนติเมตร
   
   • คาร์ซีทสำหรับเด็กโต หรือ บูสเตอร์ซีท (Booster Seat) สำหรับเด็กโตที่มีอายุไม่เกิน 12 ปี หรือเด็กโตที่มีน้ำหนักตัวตั้งแต่ 11 - 54 กิโลกรัม และมีส่วนสูงตั้งแต่ 86-160 เซนติเมตร
   
   
3. ระบบการติดตั้งคาร์ซีท
   ในการนำเอาคาร์ซีท (Car Seat) มาติดตั้งเพื่อการใช้งานภายในรถยนต์ส่วนบุคคล สิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณพ่อ คุณแม่ และผู้ปกครองทุกคนควรให้ความสำคัญนั้น คือ วิธีการติดตั้งคาร์ซีทเพื่อการใช้งานที่ง่ายและสะดวกสบาย รวมไปถึงความปลอดภัยและความแน่นหนาของคาร์ซีทที่ได้ทำการติดตั้ง เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบ่อยครั้งที่การติดตั้งคาร์ซีทภายในรถยนต์อย่างไม่ถูกวิธีนั้นล้วนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็ก ๆ ที่นั่งอยู่บนเบาะที่นั่งคาร์ซีททุกคนได้รับบาดเจ็บในขณะที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้มากยิ่งขึ้น
   
   ส่งผลให้มาตรฐานคาร์ซีท FMVSS 213 จึงได้มีการกำหนดให้คาร์ซีทเด็ก (Car Seat) ทุกตัวที่จะผ่านการทดสอบและได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยนั้นจะต้องมีระบบการติดตั้งคาร์ซีทที่เรียกว่า LATCH (Lower Anchor and Tethers for Children) ซึ่งเป็นระบบการติดตั้งคาร์ซีทที่ใช้สายรัดที่ถูกติดตั้งเอาไว้ที่บริเวณฐานของเบาะที่นั่งคาร์ซีท ซึ่งมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันกับสายรัดนิรภัยในการยึดเหนี่ยวตัวคาร์ซีทเข้ากับเบาะที่นั่งของรถยนต์ โดยการติดตั้งคาร์ซีทด้วยระบบ LATCH นี้เองถือได้ว่าเป็นวิธีการที่สะดวกและมีความปลอดภัยสูง อีกทั้งยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดตั้งคาร์ซีทอย่างไม่ถูกวิธีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
   
   
4. สัญลักษณ์บนคาร์ซีท
   เพื่อเป็นการช่วยให้คุณพ่อ คุณแม่ และผู้ปกครองมือใหม่ทุกคนสามารถสังเกตเห็นถึงคาร์ซีทที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากสหรัฐอเมริกาได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้มาตรฐาน FMVSS 213 จึงได้มีการกำหนดให้คาร์ซีททุกตัวที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจำเป็นที่จะต้องมีสติกเกอร์ที่ระบุข้อความว่า "This restraint system conforms to all applicable federal motor vehicle safety standards. This restraint is certified for use in all motor vehicles and aircraft." ปรากฏอยู่ในบริเวณที่สามารถสังเกตเห็นได้ง่ายและชัดเจนบนเบาะที่นั่งคาร์ซีท และนอกจากนี้บนตัวคาร์ซีทก็ยังจำเป็นที่จะต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับชื่อและข้อมูลติดต่อของบริษัทผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย วันที่ผลิตคาร์ซีท รวมไปถึงต้องมีคู่มือแนะวิธีการติดตั้งและการใช้งานคาร์ซีท (Car Seat) ในขั้นพื้นฐานแนบมาให้อย่างชัดเจน

โดย Britax คือ บริษัทผู้ผลิตคาร์ซีท (Car Seat) จากเยอรมันที่ปลอดภัยที่สุด ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยอย่าง ECE R44 และ ECE R129 หรือ i-Size และระบบคาร์ซีท ISOFIX รายแรกของโลก อีกทั้งยังได้รางวัลการันตีความปลอดภัยอีกมากมายจากหลายสถาบันในอุตสาหกรรมรถยนต์ และที่ Britax Thailand เราให้ความเชื่อมั่นกับลูกค้าว่า ลูกค้าทุกท่านจะได้รับสินค้าที่มีการรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในทุก ๆ ขั้นตอน เพื่อให้คุณพ่อและคุณแม่ทุกท่านสามารถไว้วางใจในคุณภาพและความสบายของลูกน้อยในระหว่างการใช้งานคาร์ซีท คาร์ซีทเด็กแรกเกิด และ รถเข็นเด็ก ทุกรุ่นของ Britax ได้เป็นอย่างดีเสมอ และเรายังมีบริการดูแลและรับประกันสินค้าถึง 24 เดือนในกรณีสินค้าชำรุดสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันสินค้าได้ทางหน้าเว็บไซต์ทันที

สอบถามเพิ่มเติมและสั่งซื้อ

Call center : 02 538 6700

Call center : 084 388 3887

Email : Info@BritaxThailand.com

Line: @britaxthailand