ช่วงวัยของเด็กทารกแรกเกิดเป็นช่วงวัยสำคัญที่ต้องได้รับการปกป้องและการดูแลอย่างอ่อนโยนมากเป็นพิเศษในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในด้านของอาหารการกินที่เหมาะสมกับช่วงวัย ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว รวมไปถึงอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ในการเดินทางอย่าง คาร์ซีทเด็ก และรถเข็นเด็ก ซึ่งถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย และช่วยให้ร่างกายของเด็กทารกที่ยังเติบโตได้อย่างไม่เต็มที่ได้รับการดูแลความปลอดภัยอย่างดีที่สุด และสามารถมีพัฒนาการที่ดีต่อไป รวมถึงมีความแข็งแรงอย่างเต็มที่ในอนาคต 

เพราะฉะนั้นแล้ว คุณพ่อและคุณแม่ที่ต้องการเสริมความปลอดภัยให้กับลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิดจึงควรเลือกซื้อคาร์ซีทกระเช้า (Car Seat) หรือเบาะที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ให้กับลูกน้อยตั้งแต่วันแรกที่เดินทางออกจากโรงพยาบาลด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล เพราะการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาแม้ว่าคุณพ่อและคุณแม่ผู้ขับขี่รถยนต์จะเป็นฝ่ายที่มีความระมัดระวังและประมาทก็ตาม และนี่คือเหตุผลทั้งหมดว่าทำไมคาร์ซีทกระเช้าถึงมีความปลอดภัยสำหรับทารกวัยแรกเกิด

ทำไมคาร์ซีทกระเช้าถึงปลอดภัยและเหมาะสมสำหรับทารกวัยแรกเกิด

1. คาร์ซีทกระเช้าถูกออกแบบมาให้เหมาะกับสรีระของทารกวัยแรกเกิด 

คาร์ซีทเด็กเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางที่มีความเฉพาะตัวสำหรับทารกแรกเกิดและเด็กเล็กในทุกช่วงวัยมากที่สุดไม่แพ้อุปกรณ์และของใช้อื่น ๆ เนื่องจากเด็กเล็กในแต่ละช่วงวัยนั้นมีรูปร่าง น้ำหนัก รวมไปถึงการพัฒนาการทางด้านร่างกายที่มีความแตกต่างกันออกไป ส่งผลให้การเลือกใช้คาร์ซีทเด็กให้เหมาะสมกับช่วงวัยของลูกน้อย  จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ลูกน้อยสามารถนั่งอยู่ในคาร์ซีทเด็กได้อย่างพอดี และมีความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง เพื่อความปลอดภัยในระหว่างการเดินทางที่ดีที่สุด 

โดยคาร์ซีทกระเช้า เป็นคาร์ซีทเด็กรูปแบบหนึ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้มีคุณสมบัติในการรองรับสรีระร่างกายของทารกแรกเกิด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากทารกวัยแรกเกิดเป็นวัยที่ยังมีพัฒนาการทางด้านร่างกายและกล้ามเนื้อที่ยังสมบูรณ์ไม่เต็มที่ โดยเฉพาะในส่วนของกล้ามเนื้อบริเวณคอ จึงทำให้ทารกแรกเกิดยังไม่สามารถชันคอได้ด้วยตัวเอง ส่งผลให้การเลือกใช้งานคาร์ซีทกระเช้าที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถปรับเอนนอนได้ในระดับ 135-170 องศาโดยเฉพาะ รวมไปถึงคาร์ซีทเด็กแรกเกิดที่มีการนำเอาเทคโนโลยีแบบพิเศษมาช่วยในการออกแบบ อย่างเช่น เทคโนโลยี Lie-flat ของ Britax ที่จะช่วยรักษาตำแหน่งและองศาการนอนที่ถูกต้องให้กับทารกวัยแรกเกิด พร้อมปรับเปลี่ยนตำแหน่งของสายรัดและองศาในการนอนให้เหมาะสมแบบอัตโนมัติเมื่อมีการปรับเปลี่ยนระดับของพนักพิงศีรษะไปตามการเติบโตของเด็ก จะช่วยให้ทารกแรกเกิดสามารถนั่งอยู่บนคาร์ซีทเด็ก ในลักษณะเอนตัวหรือนอนราบได้อย่างเหมาะสม เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับทารกแรกเกิดในระหว่างการเดินทาง และช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายของทารกแรกเกิดได้รับอันตรายจากท่านั่งที่ไม่ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ซึ่งอาจส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กได้ในอนาคต

2. คาร์ซีทกระเช้าถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการติดตั้งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ (Rearward Facing) 

อุบัติเหตุทางรถยนต์เป็นอุบัติเหตุไม่คาดฝันที่คร่าชีวิตของผู้คนไปไม่น้อยกว่าหมื่นชีวิตในทุก ๆ ปี โดยมีข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ประเทศไทยมีถนนที่อันตรายที่สุดในอาเซียน และในปีพ.ศ. 2563 ประเทศไทยยังคงเป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ในเอเชียและในภูมิภาคอาเซียน เพราะฉะนั้นแล้วการเลือกใช้งานคาร์ซีทเด็กจึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยให้คุณพ่อและคุณแม่ทุกคนสามารถพาลูกน้อยวัยแรกเกิดและเด็กเล็กในทุกช่วงวัยสามารถเดินทางไปไหนมาไหนด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลได้อย่างปลอดภัยมากที่สุด 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเลือกใช้งานคาร์ซีทกระเช้าที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการติดตั้งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะที่นั่ง (Rearward Facing) ซึ่งมีความเหมาะสมสำหรับสรีระร่างกายของทารกวัยแรกเกิดโดยเฉพาะ เนื่องจากทารกวัยแรกเกิดนั้นมีสัดส่วนของน้ำหนักศีรษะมากกว่าน้ำหนักตัวถึง 25% หรือมากกว่าผู้ใหญ่ถึงประมาณ 3 เท่า ส่งผลให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุจากการปะทะ การชน หรือการกระแทกจากบริเวณด้านหน้าของรถยนต์ การนั่งคาร์ซีทเด็กแบบหันหน้าออกจากเบาะที่นั่ง (Forward Facing) จะทำให้ศีรษะของเด็ก ๆ ถูกฉุดรั้งให้พุ่งไปยังด้านหน้า และอาจทำให้กระดูกบริเวณช่วงลำคอเกิดการเคลื่อนอย่างรุนแรงจนอาจทำให้ถึงขั้นคอหักได้ 

ในทางกลับกันหากคุณพ่อและคุณแม่มีการเลือกใช้งานคาร์ซีทเด็กแรกเกิดแบบหันหน้าเข้าหาเบาะที่นั่งให้กับลูกน้อยของตัวเอง คาร์ซีทเด็กประเภทนี้จะช่วยลดแรงกระแทกจากการชน และช่วยลดโอกาสและความรุนแรงในการได้รับบาดเจ็บของเด็กทารกจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ให้น้อยลงกว่าการใช้งานคาร์ซีทเด็กแบบหันหน้าออกจากเบาะที่นั่งได้มากถึง 75% อีกทั้งยังสามารถช่วยลดการเคลื่อนตัวของคาร์ซีทเด็กได้มากถึง 30% ซึ่งส่งผลต่ออัตราการพลิกคว่ำ และการที่คาร์ซีทเด็กจะกระแทกเข้าหาเบาะรถยนต์ที่ลดน้อยลงตามไปด้วย

3. คาร์ซีทกระเช้ามีมาตรฐานความปลอดภัยที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดโดยเฉพาะ 

คาร์ซีทเด็กแรกเกิดแบบคาร์ซีทกระเช้า เป็นคาร์ซีทเด็กที่ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้เหมาะสำหรับการนำมาใช้งานในเด็กทารกตั้งแต่วัยแรกเกิดไปจนถึงวัยไม่ต่ำกว่า 15 เดือนโดยเฉพาะ เพื่อการช่วยป้องกันอันตรายและลดความรุนแรงจากการชน การปะทะ หรือการกระแทก ในระหว่างการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ไม่คาดฝัน ซึ่งจะสังเกตได้ว่าคาร์ซีทเด็กแรกเกิดทุกรูปแบบนั้นจะต้องมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยแบบสายรัดนิรภัย 5 จุด (5 point harness system) โดยเฉพาะ 

เนื่องจากระบบสายรัดนิรภัย 5 จุดนั้นสามารถช่วยยึดตัวเด็กเอาไว้กับเบาะที่นั่งคาร์ซีทได้อย่างปลอดภัยด้วยการคาดสายรัด 5 จุดพาดผ่านไหล่ทั้ง 2 ข้าง สะโพกทั้ง 2 ข้าง และบริเวณของหัวเข็มขัดระหว่างขาทั้งสองข้าง อีกทั้งในกรณีที่เกิดแรงกระแทกจากการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ระบบสายรัด 5 จุดจะช่วยทำการกระจายแรงที่เกิดจากการกระแทกจากทุกทิศทางเข้าสู่เบาะที่นั่งของคาร์ซีทที่ถูกผลิตขึ้นมาด้วยวัสดุสำหรับดูดซับแรงกระแทกประเภท EPS หรือ Expanded Polystyrene foam และ EPP หรือ Expanded Polypropylene foam ซึ่งมีคุณสมบัติเปรียบเสมือนเกราะป้องกันแรงกระแทก ที่จะช่วยไม่ให้ทารกที่นั่งอยู่บนคาร์ซีทกระเช้าได้รับแรงกระแทกโดยตรง เพื่อช่วยในการปกป้องและลดความรุนแรงจากแรงปะทะและแรงกระแทกที่อาจส่งผลให้ทารกวัยแรกเกิดที่นั่งอยู่บนคาร์ซีทได้รับบาดเจ็บที่รุนแรงจนอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ 

และนอกจากนี้ในคาร์ซีทเด็กที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล อย่างเช่น คาร์ซีทเด็กแรกเกิดจากแบรนด์ Britax ยังได้มีการออกแบบเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะอย่างเทคโนโลยี Pivot Link ISOFIX ที่มีกลไกการทำงานแบบพิเศษที่สามารถทำงานร่วมกับระบบสายรัดนิรภัย 5 จุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยลดแรงกระแทกในบริเวณลำคอของทารกวัยแรกเกิดที่ยังมีสรีระทางร่างกายที่ยังไม่แข็งแรงมากนัก ในระหว่างการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เพื่อความปลอดภัยที่มากที่สุดสำหรับทารกวัยแรกเกิดทุกคน

โดย Britax คือบริษัทผู้ผลิตคาร์ซีทจากเยอรมันที่ปลอดภัยที่สุด ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยอย่าง ECE R44 และ ECE R129 หรือ i-Size และระบบคาร์ซีท ISOFIX รายแรกของโลก อีกทั้งยังได้รางวัลการันตีความปลอดภัยอีกมากมายจากหลายสถาบันในอุตสาหกรรมรถยนต์ และที่ Britax Thailand เราให้ความเชื่อมั่นกับลูกค้าว่าลูกค้าทุกท่านจะได้รับสินค้าที่มีการรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในทุก ๆ ขั้นตอน เพื่อให้คุณพ่อและคุณแม่ทุกท่านสามารถไว้วางใจในคุณภาพและความสบายของลูกน้อยในระหว่างการใช้งานคาร์ซีท และ รถเข็นเด็ก ทุกรุ่นของ Britax ได้เป็นอย่างดีเสมอ และเรายังมีบริการดูแลและรับประกันสินค้าสูงสุดถึง 24 เดือน ในกรณีสินค้าชำรุดสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันสินค้าได้ทางหน้าเว็บไซต์ทันที

สอบถามเพิ่มเติมและสั่งซื้อ

Call center : 02 538 6700

Call center : 084 388 3887

Email : Info@BritaxThailand.com

Line: @britaxthailand