วิธีการเลือกซื้อรถเข็นเด็ก

วิธีการเลือกซื้อรถเข็นเด็ก

รถเข็นเด็กไม่ใช่แค่ต้องสะดวกสำหรับพ่อแม่ แต่ยังต้องปลอดภัยสำหรับเด็ก

 

รถเข็นเด็ก

 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันนี้ รถเข็นเด็ก (Baby Stroller) รถเข็นเด็กแรกเกิด รถเข็นเด็กโต ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์จำเป็นสำหรับครอบครัวที่กำลังมีลูกน้อยอยู่ในวัยทารกแรกเกิดไปจนถึงเด็กเล็กควรจะต้องมีติดบ้านเอาไว้ เนื่องจากรถเข็นเด็กเหล่านี้ถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยชั้นดีที่จะช่วยให้คุณพ่อและคุณแม่ทุกท่านสามารถพาลูกน้อยเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการไปร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า หรือโรงพยาบาล ได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถช่วยแบ่งเบาภาระของคุณพ่อและคุณแม่ และยังช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยแขนหรือหลังจากการที่ต้องผลัดกันอุ้มลูกน้อยในระหว่างที่ต้องการเลือกซื้อสินค้า หรือจากการที่ต้องอุ้มลูกน้อยและหอบหิ้วสัมภาระต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กันได้เป็นอย่างดี

ซึ่งในปัจจุบันนี้เราจะเห็นได้ว่า มีรถเข็นเด็ก รถเข็นเด็กแรกเกิด รถเข็นเด็กโต ถูกผลิตออกมาเพื่อให้เราได้เลือกใช้งานมากมายหลากหลายรูปแบบ ทั้งรถเข็นเด็กที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และพกพาสะดวก ไปจนถึงรถเข็นเด็กที่มีขนาดใหญ่ แข็งแรงทนทาน และมีน้ำหนักมาก เพราะฉะนั้นแล้ว วันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ทุกคนที่กำลังมีลูกน้อยควรเลือกพิจารณาก่อนการเลือกซื้อรถเข็นเด็ก เพื่อช่วยให้คุณพ่อและคุณแม่ทุกคนสามารถเลือกซื้อรถเข็นเด็กได้อย่างปลอดภัยและเหมาะสมกับช่วงวัยของลูกน้อยมาฝากทุกคนกันค่ะ

ความปลอดภัยในการผลิตและออกแบบรถเข็นเด็ก

ขึ้นชื่อว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีการใช้งานร่วมกับทารกวัยแรกเกิดและเด็กเล็กแล้วนั้น ขั้นตอนในการผลิตและออกแบบ รวมไปถึงวัสดุที่นำมาใช้เพื่อประกอบขึ้นเป็นรถเข็นเด็ก (Baby Stroller) แต่ละคันนั้น จำเป็นที่จะต้องได้มาตรฐานในด้านความแข็งแรง ปลอดภัย และไม่เป็นอันตรายต่อเด็กที่นั่งอยู่ภายในรถเข็นเด็กไม่ว่าจะเป็นในด้านใดก็ตาม โดยรถเข็นเด็กที่ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัยจำเป็นที่จะต้องไม่มีจุดหรือส่วนแหลมคมใด ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อเด็กยื่นออกมา และไม่มีรูที่เด็กจะสามารถเอานิ้วมือหรือเท้าแหย่เข้าไปได้ รวมไปถึงรถเข็นเด็กจำเป็นที่จะต้องมีโครงสร้างของตัวรถเข็นและล้อรถที่มีความมั่นคงแข็งแรง ซึ่งอาจจะต้องแลกมาด้วยการที่รถเข็นเด็กมีน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามความแข็งแรงของวัสดุเหล่านี้ก็สามารถช่วยป้องกันไม่ให้รถเข็นเด็กเกิดการหงายไปด้านหลังในกรณีที่คุณพ่อและคุณแม่บางท่านอาจมีการใช้รถเข็นเด็กในการแบกสิ่งของหรือสัมภาระที่มีน้ำหนักมากจนเกินไปโดยไม่ทันได้ระมัดระวังได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้ยังช่วยให้รถเข็นเด็กไม่เกิดการสั่นสะเทือน หรือเกิดการโคลงเคลงที่มากจนเกินไปแม้ว่าจะมีการใช้งานบนถนนที่มีความขรุขระ หรือเป็นหลุมเป็นบ่อก็ตาม

ระบบเบรกหรือห้ามล้อของรถเข็นเด็ก

การเลือกระบบเบรกหรือระบบห้ามล้อของรถเข็นเด็ก ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญต่อความปลอดภัยของเด็กเล็กและทารกที่นั่งอยู่บนรถเข็นเด็กเป็นอย่างมาก เพราะมีหลายครั้งที่อุบัติเหตุในเด็กเล็กเกิดขึ้นมาจากการที่รถเข็นเด็กมีประสิทธิภาพในการเบรกหรือห้ามล้อบนพื้นที่มีความเอียงหรือลาดชันได้ไม่ดีมากเพียงพอ จนส่งผลให้รถเข็นเด็กไหลลงไปบนท้องถนน รางรถไฟฟ้า หรือรางรถไฟฟ้า ซึ่งอาจส่งผลให้เด็ก ๆ เกิดการบาดเจ็บที่รุนแรงถึงขั้นถึงแก่ชีวิตได้ เพราะฉะนั้นแล้วก่อนการเลือกซื้อรถเข็นเด็กให้กับลูกน้อย คุณพ่อและคุณแม่ทุกคนจึงควรศึกษาและตรวจสอบระบบเบรกและห้ามล้อของรถเข็นเด็กอย่างละเอียดว่า ระบบเบรกและห้ามล้ออยู่ในสภาพที่ดีและพร้อมสำหรับการใช้งานหรือไม่ ควบคู่ไปกับการนำรถเข็นเด็กไปตรวจสอบดูว่า ระบบเบรกและห้ามล้อของรถเข็นเด็กนั้นสามารถทำการห้ามล้อของรถเข็นเด็กไม่ให้ไหลขณะที่ทำการจอดอยู่บนทางที่มีความลาดชันได้หรือไม่ เพื่อความปลอดภัยที่มากที่สุดของลูกน้อย

โดยสำหรับรถเข็นเด็กของ Britax นั้น นอกเหนือไปจากการมีระบบเบรกและห้ามล้อที่มีประสิทธิภาพแล้วนั้น เรายังได้มีการเพิ่มการติดตั้งเทคโนโลยี Linked Parking Brake หรือ ระบบเบรกแบบขั้นตอนเดียว เข้ามาเป็นพิเศษ เพื่อช่วยให้คุณพ่อและคุณแม่ทุกท่านสามารถทำการล็อกล้อหลังทั้งสองข้างของรถเข็นเด็กได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เพียงแค่ทำการเหยียบแป้นเบรกที่ถูกติดตั้งเอาไว้บริเวณล้อหลังด้านขวาของรถเข็นเด็กเท่านั้น และนอกจากนี้รถเข็นเด็กของ Britax ยังมีการติดตั้งระบบสีที่จะช่วยบ่งชี้ว่า ในขณะที่รถเข็นเด็กอยู่ในตำแหน่งล็อกหรือปลดล็อก โดยที่เมื่อมีการเหยียบเบรก สีสถานะจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเพื่อแสดงถึงการล็อก และเมื่อทำการปล่อยเบรกสีสถานะก็จะเปลี่ยนกลับมาเป็นสีเขียวซึ่งแสดงถึงการปลดล็อกนั่นเอง



สอบถามข้อมูล

ระบบสายรัดนิรภัยของรถเข็นเด็ก

ในบางครั้งคุณพ่อและคุณแม่หลาย ๆ ท่านอาจคิดว่า เมื่อเด็ก ๆ ไม่ได้นั่งอยู่บนคาร์ซีทเด็กที่ถูกติดตั้งเอาไว้บนรถยนต์แล้วนั้น ระบบสายรัดหรือเข็มขัดนิรภัยก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องถูกนำมาใช้งานอีกต่อไป ซึ่งแน่นอนว่าความคิดนี้เป็นความคิดที่ผิดมาก ๆ เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า วิธีการใช้งานรถเข็นเด็ก (Baby Stroller) ของคุณพ่อและคุณแม่หลาย ๆ ท่าน ยกตัวอย่างเช่น การเข็นรถเข็นเด็กขึ้น-ลงบันไดเลื่อน หรือการแขวนถุงช้อปปิ้งไว้ที่บริเวณด้ามจับของรถเข็นเด็ก เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รถเข็นเด็กเสียสมดุลจนเกิดการพลิกคว่ำหรือหงายหลังลงมาได้ ซึ่งถ้าหากคุณพ่อและคุณแม่ไม่ได้ทำการคาดเข็มขัดนิรภัย หรือคาดเข็มขัดนิรภัยให้กับลูกน้อยอย่างไม่ถูกวิธี ก็อาจทำให้เด็ก ๆ หล่นลงมาจากรถเข็นเด็กจนได้รับบาดเจ็บที่รุนแรงมากกว่าในกรณีที่มีการคาดเข็มขัดนิรภัยอย่างถูกวิธีได้

โดยในรถเข็นเด็ก รถเข็นเด็กแรกเกิด รถเข็นเด็กโต ที่มีการออกแบบระบบความปลอดภัยในการใช้งานที่ได้ประสิทธิภาพนั้น ควรมีการติดตั้งระบบสายรัดนิรภัยแบบ 5 จุด (5-point harness) ที่มีตัวล็อกที่บริเวณเอว ระหว่างขา และไหล่ทั้ง 2 ข้าง เช่นเดียวกันกับในคาร์ซีทเด็ก เพื่อช่วยให้สามารถรัดตัวของเด็ก ๆ เอาไว้กับรถเข็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงตัวล็อกของสายรัดนิรภัยทั้ง 5 จุด ยังควรมีความแน่นหนามากเพียงพอที่เด็ก ๆ จะไม่สามารถดึงให้หลุดได้โดยง่าย แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่แน่นหนามากจนปลดล็อกได้ยากมากจนเกินไป เพื่อช่วยให้คุณพ่อและคุณแม่ทุกคนสามารถทำการปลดล็อกเข้าออกเพื่อให้สามารถเข้าถึงตัวเด็กได้อย่างสะดวกและรวดเร็วหากมีเหตุฉุกเฉิน

ขนาดตัวและช่วงอายุของเด็กที่ใช้รถเข็นเด็ก

ขนาดตัวและช่วงอายุของเด็กที่มีความจำเป็นจะต้องใช้งานรถเข็นเด็ก (Baby Stroller) เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่คุณพ่อและคุณแม่ทุกคนควรเลือกพิจารณาอย่างถี่ถ้วนทุกครั้งก่อนการเลือกซื้อรถเข็นเด็ก เพราะนอกเหนือไปจากการเลือกรถเข็นเด็กที่ถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสมกับสรีรศาสตร์ของทั้งทารกและเด็กเล็กแล้วนั้น รถเข็นเด็กก็จำเป็นที่จะต้องมีขนาดเหมาะสมกับส่วนสูงและรูปร่างของเด็ก เพื่อช่วยให้เด็ก ๆ สามารถนั่งบนรถเข็นเด็กได้อย่างสะดวกสบายตลอดการใช้งาน และนอกจากนี้ในการเลือกซื้อรถเข็นเด็กสำหรับทารกแรกเกิดนั้น คุณพ่อและคุณแม่ทุกท่านจำเป็นที่จะต้องเลือกใช้งานรถเข็นเด็กที่สามารถทำการปรับเบาะที่นั่งให้อยู่ในลักษณะที่มีการเอนขนานไปกับพื้นได้ เนื่องจากเด็กทารกแรกเกิดไปจนถึงอายุ 6 เดือนนั้น ยังมีการพัฒนาของกล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อบริเวณคอที่ไม่สมบูรณ์ จึงทำให้เด็กในวัยนี้ไม่สามารถนั่งรถเข็นในท่านั่งได้เพื่อความปลอดภัยของตัวเด็กนั่นเอง

ที่บังแดดและที่บังฝนของรถเข็นเด็ก

แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วคุณพ่อและคุณแม่หลาย ๆ ท่านมักจะเลือกใช้งานรถเข็นเด็กภายในอาคารที่มีรั้วรอบขอบชิด อย่างเช่น ห้างสรรพสินค้า หรือโรงพยาบาล เป็นส่วนใหญ่ จนทำให้ Canopy หรือ ที่บังแดดและที่บังฝนสำหรับรถเข็นเด็กอาจดูเป็นสิ่งที่ไม่มีความจำเป็นต่อการใช้งานมากนัก แต่อย่างไรก็ตามในบางครั้งคุณพ่อและคุณแม่หลาย ๆ ท่านก็ไม่อาจจะปฏิเสธการพาลูกน้อยเดินทางออกนอกอาคารในช่วงที่สภาพอากาศไม่เป็นใจได้ เพราะฉะนั้นแล้ว ที่บังแดดและที่บังฝนของรถเข็นเด็กจึงถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์จำเป็นที่จะช่วยปกป้องลูกน้อยจากสภาพอากาศที่มีแดดร้อนจัด มีฝนตก ลมแรง มีฝุ่นละออง หรือเต็มไปด้วยเชื้อไวรัสที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของลูกน้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งที่บังแดดและที่บังฝนของรถเข็นเด็กที่ดีนั้นควรมีการออกแบบให้มีส่วนที่มีลักษณะเป็น See-through หรือโปร่งใส เพื่อช่วยให้คุณพ่อและคุณแม่สามารถมองเห็นลูกน้อยที่นั่งอยู่ในรถเข็นเด็กได้

การทำความสะอาดรถเข็นเด็ก

เมื่อคุณพ่อและคุณแม่มีความจำเป็นจะต้องใช้งานรถเข็นเด็กอย่างต่อเนื่องก็ส่งผลให้ปัญหาของคราบเปื้อนต่าง ๆ ทั้งคราบเปื้อนที่เกิดจากสภาพภูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศ อย่างเช่น การเปียกฝน การเลอะคราบดิน โคลน หรือทราย รวมไปถึงคราบเปื้อนที่เกิดจากการที่ลูกน้อยรับประทานอาหารหรือน้ำแล้วทำหกเลอะเบาะของรถเข็นเด็ก กลายมาเป็นปัญหาที่คุณพ่อและคุณแม่ทุกท่านไม่สามารถหลีกเลี่ยงไปได้ เพราะฉะนั้นแล้วในการเลือกซื้อรถเข็นเด็กนั้น คุณพ่อและคุณแม่ทุกท่านจึงจำเป็นที่จะต้องพิจารณาดูด้วยว่า วัสดุที่นำมาใช้เพื่อประกอบขึ้นมาเป็นรถเข็นเด็ก (Baby Stroller) ในแต่ละจุดนั้นสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ยากหรือง่ายแค่ไหน และวัสดุบางส่วน อย่างเช่น เบาะที่นั่ง หรือหมอนรองศีรษะต่าง ๆ สามารถถอดออกมาเพื่อซักทำความสะอาดได้หรือไม่ เพราะถ้าหากถอดไม่ได้คุณพ่อและคุณแม่ก็จะได้สามารถเตรียมพร้อมเพื่อคิดหาวิธีในการทำความสะอาดเอาไว้ล่วงหน้าก่อนการเลือกซื้อรถเข็นเด็กได้

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันนี้มีรถเข็นเด็กในท้องตลาดมากมายที่ถูกผลิตและออกแบบมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานให้กับคุณพ่อและคุณแม่ทุกท่านได้อย่างมากมาย แต่อย่าลืมว่าสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ทุกคนควรให้ความสำคัญมากกว่าความสะดวกสบายของตัวเอง คือ ความปลอดภัยของรถเข็นเด็ก เพื่อให้ลูกน้อยที่ต้องนั่งอยู่บนรถเข็นเด็กที่เราเลือกซื้อมาใช้งานสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศยังสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยมากที่สุด

โดย Britax คือ บริษัทผู้ผลิตคาร์ซีท และรถเข็นเด็ก  รถเข็นเด็กแรกเกิด รถเข็นเด็กโต จากเยอรมันที่ปลอดภัยที่สุด เราให้ความเชื่อมั่นกับลูกค้าว่าลูกค้าทุกท่านจะได้รับสินค้าที่มีการรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในทุก ๆ ขั้นตอน เพื่อให้คุณพ่อและคุณแม่ทุกท่านสามารถไว้วางใจในคุณภาพและความสบายของลูกน้อยในระหว่างการใช้งานคาร์ซีท และ รถเข็นเด็ก ทุกรุ่นของ Britax ได้เป็นอย่างดีเสมอ และเรายังมีบริการดูแลและรับประกันสินค้า โดยการรับประกันจะอยู่ที่ 1หรือ 2 ปี ในกรณีสินค้าชำรุดสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันสินค้าได้ทางหน้าเว็บไซต์ทันที

  



สอบถามเพิ่มเติมและสั่งซื้อ

Call center: 02 538 6700

Call center: 084 3883887

Email : Info@BritaxThailand.com

line: @britaxthailand



BRITAX Strollers

  • รถเข็นเด็ก Britax รุ่น Gravity II (แรกเกิด - 6 ปี)
    22,900.00 THB

    มีหลายคุณสมบัติให้เลือก

  • ใหม่ล่าสุด
    รถเข็นเด็ก Britax รุ่น SEED PAPILIO (แรกเกิด - 4 ปี)
    39,920.00 THB
    49,900.00 THB  (-20%)

    มีหลายคุณสมบัติให้เลือก

  • รถเข็นเด็ก Britax รุ่น GO NEXT (แรกเกิด - 4 ปี)
    52,720.00 THB
    65,900.00 THB  (-20%)

    มีหลายคุณสมบัติให้เลือก

Visitors: 843,212