คาร์ซีทมือสองซื้อมาใช้กับลูกน้อย ได้ไหม?
คาร์ซีทมือสองซื้อมาใช้กับลูกน้อย ได้ไหม?
พิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อคาร์ซีทมือสอง
คาร์ซีท (Car seat) เป็นอุปกรณ์เพิ่อความปลอดภัยสูงสุดให้กับลูกน้อยของคุณขณะเดินทางอยู่ในรถยนต์ คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจยังไม่เห็นความสำคัญของคาร์ซีทสำหรับเด็กหรือตระหนักถึงความเสี่ยงของการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น จึงไม่ต้องการลงทุนด้วยเงินจำนวนมากเพื่อซื้อคาร์ซีทมือหนึ่ง จึงมองหาซื้อคาร์ซีทมือสองมาใช้ทดแทน บทความนี้จะขอสรุปความสำคัญของคาร์ซีทเด็ก รวมถึงคำถามยอดฮิตที่มักจะถามกันอยู่เสมอว่า หากต้องการประหยัดงบด้วยการซื้อคาร์ซีทมือสองดีไหม? ควรพิจารณาซื้อคาร์ซีทมือสองมาใช้หรือไม่? รวมถึงการใช้คาร์ซีทมือสองจะมีความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่?
เหตุผลอะไรถึงจำเป็นต้องซื้อคาร์ซีทเด็ก?
เนื่องจากเข็มขัดนิรภัยในรถยนต์ไม่สามารถใช้กับเด็กเล็กได้ การคาดเข็มขัดนิรภัยให้เด็กนั้นไม่สามารถให้ความปลอดภัยกับเด็กได้เลย เนื่องจากสรีระเด็กมีขนาดและสัดส่วนไม่เหมือนกับผู้ใหญ่ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ สายเข็มขัดนิรภัยที่คาดตัวเด็กอาจทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บ หรือร่างกายเด็กหลุดออกจากสายคาดได้ แม้แต่คาร์ซีท Safety Belt ที่ติดตั้งกับเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ก็อาจให้ความปลอดภัยได้ไม่เท่ากับคาร์ซีท ISOFIX ที่จะยึดแน่นกับตัวเบาะที่นั่งรถยนต์ได้ดีกว่า
ดังนั้นคาร์ซีทเด็กเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นคาร์ซีทเด็กแรกเกิด คาร์ซีทเด็กเล็ก หรือ คาร์ซีทเด็กโตหรือสำหรับครอบครัวที่มักจะพาลูกน้อยเดินทางไปมาด้วยรถยนต์ คุณพ่อคุณแม่จึงมีความจำเป็นจัดเตรียมงบประมาณส่วนหนึ่งไว้สำหรับซื้อคาร์ซีทโดยเฉพาะ สำหรับการพิจารณาลงทุนซื้อคาร์ซีทมือหนึ่งเลยหรือไม่? หรือสามารถพิจารณาซื้อคาร์ซีทมือสองได้อย่างไรบ้าง? ต่อไปนี้เป็นข้อมูลที่คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาเมื่อจะซื้อคาร์ซีทมือสองมาใช้งาน
ความปลอดภัยของคาร์ซีท
ข้อมูลจากเว็บไซต์เกี่ยวกับแม่และเด็กในสหรัฐอเมริการะบุว่า การตัดสินใจจะใช้คาร์ซีทมือสองหรือไม่นั้น ควรตรวจสอบดูว่าชิ้นส่วนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยยังอยู่ครบหรือไม่ และทำหน้าที่ได้ปกติดีไหม เพราะโดยทั่วไปชิ้นส่วนอุปกรณ์อาจเกิดความเสื่อมตามกาลเวลาหรือจากการใช้งานที่ไม่ถูกวิธี ยกตัวอย่างเช่น ตัวล็อกเซฟตี้ที่แต่เดิมมาพร้อมกับคาร์ซีทนั้น อาจถูกนำออกไปเมื่อเด็กตัวโตขึ้น และต่อมาเมื่อนำกลับมาติดตั้งใหม่ อาจไม่ได้ใส่ชิ้นส่วนเล็ก ๆ บางอย่างกลับที่เดิม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้ นอกจากชิ้นส่วนที่ควรจะติดตั้งให้ครบถ้วนแล้วนั้น ยังควรดูด้วยว่า มีเอกสารคู่มือการใช้งานด้วยหรือไม่ เพราะคู่มือนี้เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้ว่าติดตั้งทุกอย่างได้อย่างถูกต้องตามที่ควรจะเป็น ซึ่งส่วนใหญ่จะมีคู่มือเป็นเอกสารแนบมากับคาร์ซีทขณะที่ซื้อและในเว็บไซต์ของผู้ผลิตมักจะมีไฟล์คู่มือเป็น PDF พร้อมให้ดาวน์โหลดอยู่แล้ว
ประวัติการชนของคาร์ซีท
คุณพ่อคุณแม่ควรทราบประวัติการชนหรือการเกิดอุบัติเหตุของคาร์ซีทด้วย เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ยกตัวอย่างในสหรัฐอเมริกา หน่วยงานด้านความปลอดภัยทางจราจรบนถนนหลวงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NHTSA) ได้มีการระบุถึงเงื่อนไขว่า อุบัติเหตุแบบไหนบ้างที่ควรเปลี่ยนคาร์ซีทเพื่อความปลอดภัยในอนาคต บริษัทผู้ผลิตเองก็มีการรับเคลมและเปลี่ยนคาร์ซีทให้ใหม่ด้วยเมื่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเข้าเงื่อนไขที่กำหนด เช่น Manufacturer Defect Waranty ของ Britax นี่เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า อุบัติเหตุจากการชนส่งผลต่อคุณภาพและความปลอดภัยของคาร์ซีทเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากต้องการใช้คาร์ซีทมือสองจึงควรทราบประวัติการชนด้วย เนื่องจากอุบัติเหตุที่รุนแรงบางครั้ง แม้อาจจะไม่เห็นความเสียหายของคาร์ซีทจากภายนอกได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคาร์ซีทจะคงยังปลอดภัยสำหรับลูกน้อยของคุณ
ความน่าเชื่อถือของผู้ขาย
การซื้อคาร์ซีทมือสองนั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องพิจารณาโดยอาศัยข้อมูลต่าง ๆ ที่ผู้ขายนำเสนอ แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่า สิ่งที่ผู้ขายซึ่งไม่ทราบแหล่งที่มา โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่ผู้ขายหรือร้านค้าออนไลน์ที่กำลังโพสต์ขายอยู่นั้น เป็นความจริงทั้งหมด เพราะความปลอดภัยของลูกน้อยขึ้นอยู่กับข้อมูลคาร์ซีทที่ได้รับมาทั้งสิ้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะเลือกซื้ออย่างถี่ถ้วนเป็นพิเศษ บางครั้งคุณพ่อคุณแม่อาจใช้วิธีแบ่งสรรงบที่ไม่จำเป็นหรือสำคัญน้อยกว่าออก เพื่อให้มีงบเพียงพอที่จะซื้อคาร์ซีทมือหนึ่งเพื่อตัดปัญหายุ่งยากและซับซ้อนเหล่านี้ และทำให้คลายกังวลและเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัยได้อย่างมั่นใจ
แบรนด์สินค้าและความน่าเชื่อถือของคาร์ซีท
ในตลาดสินค้าประเภทคาร์ซีทในประเทศไทย มีแบรนด์สินค้าให้เลือกมากมายและหลากหลายแต่ยังไม่มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมใดๆ มากำหนดเพื่อใช้อ้างอิง คุณพ่อคุณแม่จึงควรพิจารณาจากแบรนด์ Car seat ที่น่าเชื่อถือ มีประสบการณ์การผลิตและจัดจำหน่ายต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน หากเป็นแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศที่น่าเชื่อถือก็จะสามารถตอกย้ำในเรื่องความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี เนื่องจากในต่างประเทศเช่นแถบยุโรปหรือสหรัฐอเมริกาจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของคาร์ซีท โดยมีการออกกฎหมายข้อบังคับให้เด็กเล็กที่อยู่ในเกณฑ์ เมื่อโดยสารในรถยนต์ทุกคันจะต้องนั่งในคาร์ซีทเท่านั้น ส่งผลให้มีกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์และการผลิตคาร์ซีทเด็กในภูมิภาคเหล่านั้นมาเป็นระยะเวลานานแล้ว และมีการพัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นลำดับอย่างเช่น คาร์ซีท ISOFIX ที่ติดตั้งในรถยนตได้โดยไม่ต้องใช้สาย Safety Belt ของรถยนต์ ดังนั้นหากจะซื้อคาร์ซีทมือสองมาใช้งาน จึงควรเลือกใช้แบรนด์ที่น่าเชื่อถือจะดีกว่า
Britax สรุปให้
ข้อควรพิจารณาในการเลือกซื้อคาร์ซีทมือสอง (Used Car Seat Check List)
- ประวัติร้านหรือแหล่งที่ซื้อครั้งแรก เช่นซื้อจาก Britax Thailand โดยตรง หรือซื้อจากแหล่งอื่นๆ
- หลักฐานเอกสารใบรับประกันหรือใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น
- ชิ้นส่วนหรือุปกรณ์คาร์ซีทครบถ้วนถูกต้อง (Original Part) ไม่พบชิ้นส่วนขาดหรือเกิน หรือดัดแปลง
- โครงสร้างคาร์ซีทและอุปกรณ์ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งานได้ตามปกติและเต็มประสิทธิภาพ
- โอกาสทดลองติดตั้งกับรถยนต์ที่ใช้จริง รวมทั้งทดลองให้เด็กนั่งเพื่อความมั่นใจเบื้องต้น ก่อนตัดสินใจ
- พบคู่มือการใช้งาน (User Manual) ครบถ้วนสมบูรณ์แนบมาด้วยกับตัวผลิตภัณฑ์
- ประวัติการใช้งานอื่นๆ และที่สำคัญคือประวัติอุบัติเหตุจากการชน (Crash History) เป็นต้น
หากเกณฑ์ข้อตรวจสอบข้างต้น แม้เพียงข้อหนึ่งข้อใดยังอาจเป็นข้อยุ่งยาก การพิจารณาตัดสินใจเลือกใช้คาร์ซีทมือหนึ่ง อาจเป็นข้อพิจารณาเพื่อการตัดสินใจที่สะดวกง่ายดาย ให้ความมั่นใจในความปลีอดภัยของลูกน้อยได้ดีที่สุด
ที่ Britax Thailand เราให้ความเชื่อมั่นกับลูกค้าว่าลูกค้าจะได้รับสินค้ามือหนึ่งเสมอตลอดเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา พร้อมการรับประกันสินค้าและบริการหลังการขายอย่างมั่นใจในประสิทธิภาพและคุณภาพการให้บริการของเราเป็นอย่างดีเสมอ
Car seat | Stroller | Booster Seat | คาร์ซีท | รถเข็นเด็ก | บูสเตอร์ซีท
คาร์ซีทแรกเกิด l คาร์ซีทเด็กเล็ก l คาร์ซีทเด็กโต (Booster Seat)
สอบถามเพิ่มเติมและสั่งซื้อ
Call center: 02 538 6700
Call center: 084 3883887
Email : Info@BritaxThailand.com
line: @britaxthailand