เทคนิคเลือกคาร์ซีทให้เหมาะกับรูปร่างของเด็ก

เทคนิคเลือกคาร์ซีทให้เหมาะกับรูปร่างของเด็ก

ไขข้อสงสัย เลือกคาร์ซีทแบบไหนให้เหมาะกับรูปร่างของเด็ก?

เทคนิคเลือกคาร์ซีท

เมื่อถึงวันที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องพาเจ้าตัวเล็กที่เพิ่งลืมตาดูโลกเดินทางออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับบ้าน หรือวันที่คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนต้องการที่จะพาลูกน้อยกลับไปพบคุณหมอตามนัด ตลอดจนวันที่ต้องการพาลูกน้อยไปเดินทางท่องเที่ยวนอกบ้านเพื่อเปิดหูเปิดตาและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ แน่นอนว่าการที่จะต้องพาเด็ก ๆ ที่ยังมีพัฒนาการทางด้านร่างกายที่ไม่ได้สมบูรณ์และเติบโตเต็มที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล ย่อมทำให้คุณพ่อคุณแม่เกิดความรู้สึกกังวลใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของลูกน้อยตามมามากมาย แม้ว่าคุณพ่อคุณแม่ในหลาย ๆ บ้านจะมีการเลือกคาร์ซีทหรือคาร์ซีทเด็กมาให้ลูกน้อยได้ใช้งานในระหว่างการเดินทางแล้วก็ตาม

เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า แม้ว่าคาร์ซีทหรือคาร์ซีทเด็กทุกตัวจะถูกออกแบบและผลิตขึ้นมาด้วยนวัตกรรมความปลอดภัยที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ในการใช้งานคาร์ซีทเด็กก็ย่อมมีปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ ที่สามารถส่งผลต่อประสิทธิภาพในการช่วยป้องกันอันตรายของคาร์ซีทเด็กในขณะที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้เช่นกัน โดยหนึ่งในนั้นคือปัจจัยในด้าน “รูปร่าง” ของเด็ก ๆ ทุกคนที่นั่งอยู่บนเบาะที่นั่งของคาร์ซีทเด็ก ที่จะมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและจะมีความแตกต่างกันออกไปตามแต่ละช่วงวัย เพราะฉะนั้นแล้วในการเลือกซื้อคาร์ซีทเด็กมาใช้งาน ปัจจัยในด้านรูปร่างจึงเป็นปัจจัยที่มีส่วนสำคัญที่สุดในการช่วยกำหนดรูปแบบของคาร์ซีทกระเช้าสำหรับเด็กแรกเกิด คาร์ซีทเด็ก หรือคาร์ซีทเด็กโต (บูสเตอร์ซีท) ที่จะถูกเลือกนำมาใช้งานได้อย่างเหมาะสมมากที่สุด โดยในบทความนี้ Britax Thailand จะขอพาคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านไปพบกับเทคนิคดี ๆ ในการเลือกคาร์ซีทให้เหมาะกับรูปร่างของเด็ก ๆ กันค่ะ

เทคนิคดี ๆ ในการเลือกคาร์ซีทให้เหมาะกับรูปร่างของเด็ก

  1. ทำความเข้าใจกับรูปร่างของเด็ก ๆ ก่อนเลือกคาร์ซีท
    ในลำดับแรกเริ่มก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะทำการตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีทหรือคาร์ซีทเด็กมาใช้งานนั้น สิ่งสำคัญคือ คุณพ่อคุณแม่ทุกคนจะต้องเริ่มสำรวจและทำความเข้าใจให้แน่ชัดก่อนว่าลูกน้อยของตัวเองนั้นมีรูปร่างแบบไหน โดยการเลือกพิจารณาจากส่วนสูง น้ำหนัก และสัดส่วนโดยรวมเป็นสำคัญ ร่วมกับการลองประเมินดูว่าลูกน้อยของตัวเองนั้นมีโครงร่างเล็กหรือใหญ่ อีกทั้งมีช่วงลำตัวที่ยาวหรือสั้น เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการเลือกซื้อคาร์ซีทเด็กให้สามารถรองรับกับร่างกายของเด็ก ๆ ที่เติบโตขึ้นทุกวันได้อย่างเหมาะสม เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการใช้งานคาร์ซีทเด็กที่มากที่สุด

  2. เลือกคาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะที่นั่งรถยนต์สำหรับทารกและเด็กเล็ก
    สำหรับทารกวัยแรกเกิดและเด็กเล็กที่ยังมีพัฒนาการทางด้านร่างกายและกล้ามเนื้อต่าง ๆ ที่ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ การเลือกใช้งานคาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะที่นั่งรถยนต์ (Rear-Facing Car Seats) นับเป็นทางเลือกในการใช้งานคาร์ซีทเด็กที่มีความปลอดภัยมากที่สุด เนื่องจากลักษณะของเบาะที่นั่งในคาร์ซีทเด็กประเภทดังกล่าวจะถูกออกแบบขึ้นมาให้สามารถรองรับและปกป้องช่วงศีรษะ ลำคอ และกระดูกสันหลังได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บรุนแรงเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ต้องหยุดรถกะทันหันหรือรถถูกชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

    ส่งผลให้มาตรฐาน ECE R129 (i-Size) ซึ่งเป็นมาตรฐานในการตรวจสอบความปลอดภัยในการใช้งานคาร์ซีทเด็กและบูสเตอร์ซีทจึงได้มีการกำหนดให้เด็ก ๆ ใช้งานคาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะที่นั่งรถยนต์จนถึงอายุอย่างน้อย 15 เดือนขึ้นไป เพื่อความปลอดภัยในระหว่างการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลที่มากที่สุด

  3. เลือกคาร์ซีทแบบหันหน้าออกจากเบาะที่นั่งรถยนต์สำหรับเด็ก ๆ อายุ 15 เดือนขึ้นไป

    เมื่อเด็ก ๆ เริ่มโตขึ้นจนมีอายุมากกว่า 15 เดือนขึ้นไป หรือมีพัฒนาการทางด้านส่วนสูงและน้ำหนักที่เกินขีดจำกัดสำหรับการใช้งานคาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะที่นั่งรถยนต์ (Rear-Facing Car Seats) ได้อย่างปลอดภัยแล้วนั้น ก็ถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องทำการเลือกเปลี่ยนมาใช้งานคาร์ซีทแบบหันหน้าออกจากเบาะที่นั่งรถยนต์ (Forward-Facing Car Seats) ที่มีความเหมาะสมกับรูปร่างของเด็ก ๆ มากยิ่งขึ้น โดยหนึ่งในสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกคาร์ซีทให้เหมาะกับรูปร่างของลูกน้อยได้มากที่สุด คือ การเลือกคาร์ซีทเด็กที่มาพร้อมด้วยคุณสมบัติในการปรับแต่งการใช้งานได้อย่างเหมาะกับสรีระของเด็ก ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของตำแหน่งความสูงของสายรัดหรือพนักพิงศีรษะ เพื่อช่วยทำให้เด็ก ๆ สามารถใช้งานเทคโนโลยีความปลอดภัยที่มีอยู่ในคาร์ซีทเด็กได้อย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด

  4. เลือกคาร์ซีทเด็กโต หรือ บูสเตอร์ซีท (Booster Seat) สำหรับเด็กโต
    เมื่อถึงช่วงวัยที่เด็ก ๆ โตเกินกว่าที่จะสามารถนั่งอยู่บนคาร์ซีทเด็กแบบหันหน้าออกจากเบาะที่นั่งรถยนต์ (Forward-Facing Car Seats) ได้อย่างปลอดภัย แต่ทว่าก็ยังไม่โตพอที่จะสามารถใช้งานเข็มขัดนิรภัยในรถยนต์ได้โดยไม่มีตัวช่วย การเลือกเปลี่ยนมาใช้งานคาร์ซีทเด็กโต หรือ บูสเตอร์ซีท (Booster Seat) จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้เด็ก ๆ สามารถใช้งานคาร์ซีทได้อย่างเหมาะสมกับรูปร่าง รวมถึงได้รับการปกป้องจากการได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดในขณะที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ อย่างไรก็ตามหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดของการเลือกคาร์ซีทเด็กโตมาใช้งาน คือ คาร์ซีทเด็กโตจำเป็นที่จะต้องมีความเหมาะสมกับน้ำหนักและส่วนสูงของเด็ก ๆ อย่างแท้จริง เพื่อช่วยให้เด็ก ๆ สามารถใช้งานคาร์ซีทเด็กโตร่วมกับเข็มขัดนิรภัยได้อย่างปลอดภัยและสบายตัวมากที่สุด

  5. เลือกคาร์ซีทจากบริษัทผู้ผลิตคาร์ซีทที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล
    การเลือกคาร์ซีทจากบริษัทผู้ผลิตคาร์ซีทที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากลเป็นอีกหนึ่งเครื่องการันตีชิ้นสำคัญที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ทุกคนสามารถมั่นใจได้ว่า คาร์ซีทหรือคาร์ซีทเด็กที่ได้ทำการเลือกซื้อมานั้นถูกออกแบบและผลิตขึ้นมาตามมาตรฐาน อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ได้ประสิทธิภาพ รวมถึงคาร์ซีทหรือคาร์ซีทเด็กจากบริษัทผู้ผลิตคาร์ซีทยังผ่านการทดสอบต่าง ๆ มามากมายเพื่อให้สามารถช่วยรองรับกับรูปร่างและสรีระร่างกายของเด็ก ๆ ที่จะมีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละช่วงวัยได้อย่างปลอดภัยในทุกการเดินทางอย่างแท้จริง


โดย Britax คือ บริษัทผู้ผลิตคาร์ซีท คาร์ซีทเด็กแรกเกิด คาร์ซีทเด็ก คาร์ซีทเด็ก คาร์ซีท ISOFIX ที่ตอบโจทย์ความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการใช้งานร่วมกับเด็กที่มีรูปร่างแตกต่างกันออกไปในแต่ละช่วงวัย โดยคาร์ซีทเด็กทุกตัวของ Britax เป็นคาร์ซีทเด็กจากเยอรมันที่มีคุณภาพและความปลอดภัยภายใต้ราคาที่สมเหตุสมผลมากที่สุด ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยอย่าง ECE R44 และ ECE R129 หรือ i-Size และระบบคาร์ซีท ISOFIX รายแรกของโลก อีกทั้งยังได้รางวัลการันตีความปลอดภัยอีกมากมายจากหลายสถาบันในอุตสาหกรรมรถยนต์ และที่ Britax Thailand เราให้ความเชื่อมั่นกับลูกค้าว่า ลูกค้าทุกท่านจะได้รับสินค้าที่มีการรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในทุก ๆ ขั้นตอน เพื่อให้คุณพ่อและคุณแม่ทุกท่านสามารถไว้วางใจในคุณภาพและความสบายของลูกน้อยในระหว่างการใช้งานคาร์ซีท คาร์ซีทเด็กและ รถเข็นเด็ก ทุกรุ่นของ Britax ได้เป็นอย่างดีเสมอ และเรายังมีบริการดูแลและรับประกันสินค้าสูงสุดถึง 24 เดือน ในกรณีสินค้าชำรุดสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันสินค้าได้ทางหน้าเว็บไซต์ทันที


 

   

 


สอบถามเพิ่มเติมและสั่งซื้อ

Call center : 02 538 6700

Call center : 084 388 3887

Email : Info@BritaxThailand.com

Line: @britaxthailand

 

Visitors: 891,083