ความจำเป็นในการใช้คาร์ซีทเด็กแรกเกิดตั้งแต่วันแรกที่พาลูกออกจากโรงพยาบาล
ความจำเป็นในการใช้คาร์ซีทเด็กแรกเกิด
ตั้งแต่วันแรกที่พาลูกออกจากโรงพยาบาล
วิธีเลือกซื้อคาร์ซีทเด็กแรกเกิด
เมื่อใกล้ถึงช่วงเวลาสำคัญของการคลอดเจ้าตัวเล็ก ก็ถึงเวลาที่คุณพ่อและคุณแม่หลาย ๆ ท่านเริ่มทำการจัดเตรียมข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่จำเป็นให้กับลูกน้อยของตัวเองมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผ้าอ้อม ผ้าห่อตัว เสื้อผ้า ที่นอน ขวดนม รวมไปถึงคาร์ซีท (car seat) หรือ เบาะที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยให้คุณพ่อและคุณมือใหม่ทุกท่านที่ต้องการจะพาลูกน้อยเดินทางกลับบ้านเป็นครั้งแรกด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล สามารถพาลูกน้อยกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย
สำหรับคุณพ่อและคุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหาคาร์ซีทเด็กแรกเกิดให้กับเจ้าตัวเล็กของตัวเอง แต่ยังไม่รู้ว่าควรจะเลือกใช้งานคาร์ซีทเด็กอย่างไร หรือคาร์ซีทที่ได้มองไว้นั้นสามารถช่วยเสริมความปลอดภัยให้กับลูกน้อยในระหว่างการเดินทางออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดหรือไม่ วันนี้ Britax ก็ได้ทำการรวบรวมข้อมูลและข้อควรรู้ที่ถูกต้องที่คุณพ่อและคุณแม่มือใหม่ทุกท่านควรรู้ก่อนการเลือกซื้อคาร์ซีทเด็กแรกเกิดมาฝากทุกคนกันค่ะ
1. คาร์ซีทเด็กแรกเกิดต้องหันหน้าเข้าหาเบาะรถยนต์ (Rearward Facing) เท่านั้น
คาร์ซีทเด็กเป็นอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อช่วยเสริมความปลอดภัย ช่วยป้องกันอันตราย และช่วยลดความรุนแรงของการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้นกับร่างกายของทารกแรกเกิดและเด็กเล็ก ในกรณีที่รถยนต์เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันจากการกระแทก การชน หรือการเบรกรถอย่างกะทันหัน เช่นเดียวกับเข็มขัดนิรภัย 3 จุดสำหรับผู้ใหญ่
แต่อย่างไรก็ตามด้วยสรีระทางร่างกายที่ยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณศีรษะและกระดูกสันหลังส่วนคอของทารกแรกเกิดที่ถือเป็นส่วนที่มีความเปราะบางมากเป็นพิเศษ ส่งผลให้การใช้งานคาร์ซีทแบบหันหน้าออกจากเบาะรถยนต์ (Forward Facing) ในทารกวัยแรกเกิด จึงถือเป็นการทำให้เด็กทารกต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการที่ศีรษะจะถูกฉุดรั้งให้พุ่งไปยังด้านหน้าในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจากการชนหรือการกระแทกจากบริเวณด้านหน้าของรถยนต์ ซึ่งอาจส่งผลให้กระดูกบริเวณลำคอของเด็กทารกเคลื่อนอย่างรุนแรงจนถึงขั้นทำให้คอหัก หรืออาจทำให้กระดูกสันหลังได้รับแรงกระทบกระเทือนจากการชน จนทำให้ไขสันหลังเกิดการเสียหายหรือถูกทำลาย ซึ่งส่งผลให้สมองเกิดความเสียหายและทำให้เด็กทารกเป็นอัมพาตได้
แม้ว่าในปัจจุบันนี้จะยังไม่ได้มีกฎหมาย หรือกฎข้อบังคับต่าง ๆ ที่ถูกกำหนดขึ้นมาอย่างชัดเจนเพื่อบังคับให้เด็กทารกต้องใช้งานคาร์ซีทเด็กแบบหันหน้าเข้าหาเบาะรถยนต์ (Rearward Facing) ในระหว่างการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเท่านั้น แต่หน่วยงานต่าง ๆ ก็ได้มีการร่วมรณรงค์กันอย่างแพร่หลาย เพื่อช่วยสนับสนุนให้คุณพ่อและคุณแม่ทุกท่านเลือกใช้งานคาร์ซีทเด็กแบบหันหน้าเข้าหาเบาะรถยนต์ให้กับทารกแรกเกิดและเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 15 เดือนขึ้นไป ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อช่วยปกป้องและลดความรุนแรงของอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ไม่คาดฝัน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของเด็ก ๆ ทุกคน
2.คาร์ซีทเด็กแรกเกิดต้องได้รับการรับรองด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสากล
การใช้งานคาร์ซีทเด็กที่ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นมาด้วยวัสดุและนวัตกรรมที่ทันสมัยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัยในระดับสากลที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณพ่อและคุณแม่มือใหม่ที่กำลังมีลูกน้อยอยู่ในวัยทารกทุกท่านสามารถมั่นใจได้ว่า คาร์ซีทเด็กแรกเกิดที่ได้เลือกมาใช้งานนั้นมีความปลอดภัย และสามารถป้องกันอันตรายหรือการบาดเจ็บรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นกับลูกน้อยในระหว่างการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งคาร์ซีทเด็กยังสามารถรองรับสรีระและสุขภาวะการนั่งของลูกน้อยได้อย่างเหมาะสมตลอดการเดินทาง
โดยคาร์ซีทเด็กที่ได้มาตรฐานจะต้องได้รับการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัยในระดับสากลด้วยมาตรฐาน ECE R44/04 Child Restraint Systems ควบคู่ไปกับมาตรฐาน ECE R129 หรือ i-Size โดยจะต้องผ่านการทดสอบความปลอดภัยด้านการชนทั้งจากบริเวณด้านหน้า ด้านหลัง ด้านข้าง และการทดสอบชนแบบพลิกคว่ำหลายตลบตามกฎระเบียบของสหภาพยุโรป เพื่อเป็นการการันตีว่าคาร์ซีทเด็กจะสามารถป้องกันและลดความรุนแรงของทารกแรกเกิดและเด็กเล็กจากการบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติทางรถยนต์ที่ไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นการกระแทก การชน หรือการเบรกรถอย่างกะทันหัน ได้อย่างปลอดภัยมากที่สุด
3. คาร์ซีทเด็กแรกเกิดต้องมีระบบการติดตั้งที่แน่นหนา ปลอดภัย
สำหรับคาร์ซีทเด็กที่มีวางจำหน่ายอยู่ทั่วไปในท้องตลาดในปัจจุบันนี้นั้น สามารถแบ่งวิธีในการติดตั้งคาร์ซีทในรถยนต์ส่วนบุคคลได้เป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ ได้แก่ การติดตั้งคาร์ซีทด้วยระบบ Safety Belt และ การติดตั้งคาร์ซีทด้วยระบบ ISOFIX แม้ว่าระบบการติดตั้งคาร์ซีทเด็กแรกเกิดทั้ง 2 รูปแบบนี้จะมีรูปแบบและวิธีการที่ใช้สำหรับการติดตั้งคาร์ซีทที่มีความแตกต่างกันออกไป เพื่อให้สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการใช้งานของคุณพ่อและคุณแม่ และประเภทของรถยนต์ส่วนบุคคลที่ใช้ แต่ระบบการติดตั้งคาร์ซีทเด็กทั้ง 2 รูปแบบก็ได้ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงสุด เพื่อช่วยให้คุณพ่อและคุณแม่ทุกท่านสามารถติดตั้งคาร์ซีทเด็กได้อย่างสะดวก ถูกต้อง และปลอดภัยแน่นหนา เพื่อช่วยป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับลูกน้อยจากการติดตั้งคาร์ซีทอย่างไม่ถูกวิธีได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
4. คาร์ซีทเด็กแรกเกิดต้องเป็นแบบที่ปรับนอนราบได้เท่านั้น
เด็กทารกวัยแรกเกิดไปจนถึงวัย 6 เดือน เป็นวัยที่ยังมีการพัฒนาทางด้านร่างกายและกล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ที่ไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะบริเวณกระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อบริเวณคอ ส่งผลให้ทารกแรกเกิด ไม่สามารถนั่งบนคาร์ซีทเด็กในลักษณะเดียวกันกับเด็กโตได้ เพราะฉะนั้นแล้วคุณพ่อและคุณแม่ที่มีลูกน้อยอยู่ในวัยทารกจึงควรเลือกใช้งานคาร์ซีทเด็กแรกเกิดแบบที่สามารถปรับนอนราบได้เท่านั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ลูกน้อยเกิดการบาดเจ็บหรือเกิดความรู้สึกที่ไม่สบายตัวจากการนั่งในท่าที่ไม่ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ได้
โดยคาร์ซีทเด็กแรกเกิดที่ได้มาตรฐานควรสามารถทำการปรับเอนนอนได้ในระดับ 135-170 องศา เพื่อช่วยให้ทารกแรกเกิดสามารถอยู่ในท่าเอนตัวหรือนอนราบได้อย่างเหมาะสม และสามารถขยับแขนและขาไปมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ และนอกจากนี้เบาะที่เอนราบของคาร์ซีทเด็กยังช่วยป้องกันการถูกกดทับบริเวณท้องจากการงอตัว ซึ่งจะช่วยให้ระบบหายใจที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ของเด็กทารกแรกเกิดสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้เด็กแรกเกิดสามารถนอนบนคาร์ซีทเด็กได้อย่างปลอดภัยและสบายตลอดการเดินทาง
โดย Britax คือบริษัทผู้ผลิตคาร์ซีทจากเยอรมันที่ปลอดภัยที่สุด ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยอย่าง ECE R44 และ ECE R129 หรือ i-Size และระบบคาร์ซีท ISOFIX รายแรกของโลก อีกทั้งยังได้รางวัลการันตีความปลอดภัยอีกมากมายจากหลายสถาบันในอุตสาหกรรมรถยนต์ และที่ Britax Thailand เราให้ความเชื่อมั่นกับลูกค้าว่าลูกค้าทุกท่านจะได้รับสินค้าที่มีการรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในทุก ๆ ขั้นตอน เพื่อให้คุณพ่อและคุณแม่ทุกท่านสามารถไว้วางใจในคุณภาพและความสบายของลูกน้อยในระหว่างการใช้งานคาร์ซีท และ รถเข็นเด็ก ทุกรุ่นของ Britax ได้เป็นอย่างดีเสมอ และเรายังมีบริการดูแลและรับประกันสินค้าถึง 24 เดือนในกรณีสินค้าชำรุดสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันสินค้าได้ทางหน้าเว็บไซต์ทันที
สอบถามเพิ่มเติมและสั่งซื้อ
Call center: 02 538 6700
Call center: 084 388 3887
Email : Info@BritaxThailand.com
line: @britaxthailand
คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด - 4 ปี (Group 0+1)
-
คาร์ซีท Britax รุ่น MAX FIX II (แรกเกิด - 4 ปี)19,900.00 THB
28,900.00 THB (-31%)มีหลายคุณสมบัติให้เลือก
-
คาร์ซีท Britax รุ่น DUALFIX3 i-SIZE (3 เดือน - 4 ปี)30,900.00 THB
มีหลายคุณสมบัติให้เลือก
-
คาร์ซีท Britax รุ่น iSENSE MODULAR SYSTEM BUNDLE (แรกเกิด - 4 ปี )60,900.00 THB
74,700.00 THB (-18%)มีหลายคุณสมบัติให้เลือก
-
ขายดีคาร์ซีท Britax รุ่น iSENSE MODULAR SYSTEM BUNDLE (แรกเกิด - 4 ปี ) Limited Edition61,900.00 THB
75,700.00 THB (-18%)มีหลายคุณสมบัติให้เลือก
-
คาร์ซีท Britax รุ่น FIRST CLASS PLUS (แรกเกิด - 4 ปี)9,900.00 THB
18,900.00 THB (-48%)มีหลายคุณสมบัติให้เลือก
-
ขายดีคาร์ซีท Britax ISOFIX รุ่น DUALFIX PRO (แรกเกิด - 4 ปี)36,900.00 THB
มีหลายคุณสมบัติให้เลือก